ด้วยภัยจากแก๊งคอลเซนเตอร์ต่างๆ มากมายที่มาหลากหลายมุกไม่ค่อยจะซ้ำกัน ซึ่งบางครั้งอาจรู้ข้อมูลที่สำคัญของเราได้เช่นกันครับและในที่สุดเราอาจจะเสียเงินไปจนหมดตัวได้เลยครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปศึกษาเกี่ยวกับ “วิธีป้องกันข้อมูลบัตรเครดิตหลุด” ที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!
นิยามของคำว่า “ข้อมูลรั่วไหล”
ข้อมูลรั่วไหลนั้น อาจเกิดขึ้นหลายแบบและหลายวิธี
●การแฮ็ก : มีคนเข้าถึงระบบหรือฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกมิจฉาชีพสามารถทำได้โดยใช้ซอฟต์แวร์พิเศษหรือใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
●เกิดจากคนในองค์กร: เช่นคนที่ทำงานให้กับบริษัท เช่น พนักงานหรือผู้รับเหมา เปิดเผยข้อมูลโดยเจตนา พวกเขาอาจทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัท
●การโจรกรรม : คือ มีคนขโมยข้อมูลทางกายภาพ เช่น แล็ปท็อปหรือฮาร์ดไดรฟ์ กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้หากคุณทิ้งอุปกรณ์ไว้ในที่สาธารณะหรือมีคนบุกรุกบ้านหรือที่ทำงาน
●การปล่อยข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ : เช่น คุณอาจส่งอีเมลผิดคนโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือโพสต์บางสิ่งซึ่งควรเป็นส่วนตัว แต่กลับโพสต์เป็นข้อมูลสาธารณะ
●ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัย : ข้อมูลรั่วไหลอาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีบุคคลไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น พนักงานพิมพ์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นต้น
แล้วเราจะป้องกันข้อมูลส่วนตัวหรือบัตรของเรารั่วไหลได้อย่างไรบ้าง?
●พยายามอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ : ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเก่ามักเป็นสาเหตุของการรั่วไหลของข้อมูล อย่าลืมอัปเดตโปรแกรมทั้งหมดของคุณเพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
●ใช้รหัสผ่านที่รัดกุม : เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ใช้ตัวอักษร ตัวเลข และอักขระพิเศษผสมกัน เพื่อสร้างรหัสผ่านที่รัดกุม
●ใช้การตรวจสอบสิทธิ์ 2 ขั้นตอน : ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้กับบัญชีของคุณ แม้ว่าจะมีคนสามารถเดารหัสผ่านของคุณได้ แต่ก็ยังต้องการรหัสข้อมูลอีกส่วนหนึ่งเพื่อเข้าถึงบัญชีของคุณ
●ใช้ VPN: โดย VPN จะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณและทำให้บุคคลอื่นที่สอดแนมกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้ยากขึ้น
●ระวังสิ่งที่คุณโพสต์ลงบนออนไลน์ : ระวังข้อมูลที่คุณแชร์ทางออนไลน์ หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ที่อยู่บ้านหรือข้อมูลทางการเงินของคุณ
●จับตาดูการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง : ฟิชชิ่ง หรือเว็บไซต์ปลอม เป็นวิธีทั่วไปสำหรับแฮกเกอร์ในการเข้าถึงข้อมูลของคุณ คอยระวังอีเมลที่น่าสงสัยหรือเว็บไซต์ที่อาจพยายามขโมยข้อมูลของคุณ
●หมั่นตรวจสอบบัญชีของคุณ : โดยเฉพาะตรวจสอบใบแจ้งยอดธนาคาร และบัตรเครดิตของคุณเป็นประจำสำหรับธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
บัตรเครดิตปลอดภัยมั้ย?
เนื่องด้วยบัตรเครดิตส่วนใหญ่ถูกออกโดยธนาคารที่มี่ความมั่นคงและมีการรับประกันความปลอดภัยในด้านต่างๆ แถมเรายังสามารถระงับการใช้บัตรได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ซึ่งต่างจากการจ่ายเงินด้วยเงินสดเงินโอนที่เมื่อได้โอนออกไปแล้ว ก็จะตามเงินกลับได้ยากมากๆ เลยหล่ะครับ ดังนั้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจึงปลอดภัยกว่ามากๆ เลยหล่ะครับ
ข้อได้เปรียบของการมีบัตรเครดิต
เราสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยมีโปรโมชั่นที่มากกว่า ในบางครั้งการชำระสินค้าด้วยเงินสดอาจไม่คุ้มค่าเท่ากับการเลือกชำระผ่านบัตรเครดิตที่มีทั้งเครดิตเงินคืนหรือส่วนลดราคาสินค้าเมื่อทำรายการตามยอดที่กำหนด นอกจากนี้แล้วบัตรเครดิตส่วนใหญ่ยังมีการร่วมรายการส่งเสริมการขายกับร้านค้าชื่อดังหลายๆ ร้านให้เราสามารถผ่อนจ่ายค่าสินค้าโดยไม่คิดดอกเบี้ย (0%) ตั้งแต่สามเดือนไปจนถึงเป็นปีๆ ก็มีครับ
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “วิธีป้องกันข้อมูลบัตรเครดิตหลุด” ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ